รังสี x
ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1895 โดยนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เกน (Wilhelm Konrad Röntgen, ค.ศ.1845-1923) โดยรังสีที่เรินต์เกนคันพบนั้นต่อมาเรียกรังสีดังกล่าวว่า รังสีเอกซ์ (x-ray) เนื่องจากขณะค้นพบยังไม่ทราบว่าเป็นรังสีชนิดใด จึงใช้ “x” แทนเหมือนตัวแปรที่ไม่ทราบค่าทางคณิตศาสตร์
ภาพเรินต์เกน และภาพแรกที่ได้รับการถ่ายด้วยรังสีเอกซ์ (ภาพมือภรรยาของเรินต์เกน)
เกร็ดความรู้
1. เรินต์เกน เป็นบุคคลแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ.1901 จากการค้นพบรังสีเอกซ์
2. เรินต์เกน ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งรังสีวินิจฉัย (father of diagnostic radiography)” ด้านการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ด้วยรังสีเอกซ์
3. รังสีเอกซ์ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “รังสีเรินต์เกน” แต่เรินต์เกนปฏิเสธการใช้ชื่อตนเองเรียกรังสีที่ค้นพบ
4. “เรินต์เกนเนียม (Roentgenium, Rg)” เลขอะตอม 111 ถูกตั้งเป็นชื่อ็นธาตุเพื่อเป็นเกียรติแก่เรินต์เกน ตาม IUPAC
https://www.sciencephoto.com/media/813681/view/wilhelm-roentgen-german-physicist
ภาพความยาวคลื่นและความถี่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
จากการค้นพบรังสีเอกซ์ของเรินต์เกน ต่อมาใน ค.ศ. 1912 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน มักซ์ เทโอดอร์ เฟลิกซ์ ฟอน เลาเอ (Max Theodor Felix von Laue, ค.ศ.1879-1960) พบว่ารังสีเอกซ์มีสมบัติการเลี้ยวเบน นอกจากนี้ยังมีการค้นพบสมบัติการหักเห (refraction) การแทรกสอด (interference) การสะท้อน (reflection) และโพลาไรเซชัน (polarization) ซึ่งเป็นสมบัติของแสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic wave)
https://www.sciencedirect.com/topics/social-sciences/electromagnetic-wave
รังสีเอกซ์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงานสูง ไม่เลี้ยวเบนในสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก เรืองแสงได้ สามารถทะลุทะลวงผ่านเนื้อเยื่อของร่างกายได้ และถูกดูดซับได้ดีจากวัตถุที่มีความหนาแน่นสูง เช่น กระดูก หากนำอุปกรณ์รับภาพหรือฟิล์มมารองรับรังสีเอกซ์ จะพบภาพเงาบนแผ่นฟิล์มหรืออุปกรณ์รับภาพนั้น ประโยชน์ทางการแพทย์ สามารถตรวจหากระดูกหัก แตก เนื้องอกในกระดูก ความผิดปกติของปอด ปอดบวม วัณโรค ความปิดปกติของหัวใจ ตรวจหาเนื้อร้ายของมะเร็งเต้านม การตรวจวินิจฉัยทางทันตกรรม ฟันผุ ฟันคุด ปัญหารากฟัน ด้านฟิสิกส์ สามารถใช้รังสีเอกซ์ในการศึกษาโครงสร้างผลึก การวิเคราะห์ธาตุในดิน การปล่อยรังสีเอกซ์ของดวงดาวและวัตถุนอกโลก ด้านศิลปะ ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ
ความเสี่ยงต่อการใช้รังสีเอกซ์ เนื่องจากรังสีเอกซ์สามารถทำให้โมเลกุลแตกตัวเป็นไอออน (ionizing radiation) จึงอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ หากได้รับรังสีเอกซ์เป็นระยะเวลานานอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ แต่ความเสี่ยงนี้ต่ำเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้จากการวินิจฉัย หญิงมีครรภ์ควรระวังและแจ้งแพทย์ทุกครั้งเพราะทารกในครรภ์มีความไวต่อรังสี เพื่อความปลอดภัยจากรังสีเอกซ์ มีหลักปฏิบัติตนดังนี้ ได้รับปริมาณรังสีน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ระยะทางให้ห่างจากแหล่งกำเนิดรังสีให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น แผ่นตะกั่ว
ภาพถ่ายด้วยรังสีเอกซ์จากศิลปินชาวอังกฤษ นิค เวเซย์ (Nick Veasey)
https://www.nullsociety.co/encyclopedia/seeing-the-world-through-x-ray-with-nick-veasey